เลือกกันเอง ที่มา สว. 67

เลือกกันเอง ที่มา สว. 67

11 พฤษภาคม 2567 สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดพิเศษ 250 คนที่มาแบบพิเศษ ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กจะมีอายุครบห้าปีตามบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญ 2560 หลังจากนั้นหน้าตาและที่มาของ สว. ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้กลั่นกรองกฎหมายก็จะเปลี่ยนแปลงไป โดย สว. ชุดใหม่ที่จะมารับไม้ต่อนี้ มีจำนวน 200 คนมีวาระห้าปี ไม่มีอำนาจพิเศษแบบ สว. จาก คสช.

สว. ชุดใหม่ ใช้ระบบ “เลือกกันเอง”

การเลือก สว. ชุดใหม่เป็นไปตามบทบัญญัติหลักของรัฐธรรมนูญ และมีจำนวนลดลงเหลือ 200 คน โดยจะใช้ระบบ “เลือกกันเอง” ของแต่ละกลุ่มอาชีพรวม 20 กลุ่ม และ “เลือกแบบไต่ระดับ” จากระดับอำเภอ

สู่ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ไม่เพียงเท่านั้น ยังให้มีการ “เลือกไขว้กลุ่ม” ในแต่ละระดับ มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 5 ปี และสามารถดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียวเท่านั้น

สว. ทำหน้าที่อะไร

1. พิจารณาแก้รัฐธรรมนูญ

• ต้องได้เสียงของ สส. และ สว. ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ในจำนวนนั้นต้องมีเสียงเห็นชอบของ สว. 1 ใน 3

• พิจารณารายมาตรา (เสียงข้างมาก)

• เห็นชอบ ได้เสียง สส. และ สว. มากกว่ากึ่งหนึ่ง ในจำนวนนั้นต้องมีเสียงเห็นชอบของ สว. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 และเสียง สส. พรรคที่ไม่มี รมต. ประธาน/รองประธานสภา 20%

2. การกลั่นกรองกฎหมายที่ผ่านจากสภาผู้แทนราษฎร

• ร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ (สส. สว. อำนาจเท่ากัน)

• พิจารณาร่างกฎหมายทั่วไปร่างกฎหมายงบประมาณอนุมัติพระราชกำหนด

3. ให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ

• ศาลรัฐธรรมนูญ, องค์การอิสระ, และตำแหน่งระดับสูงในหน่วยงานรัฐ เช่น กกต. ปปช. อัยการสูงสุด เป็นต้น

4. ตรวจสอบฝ่ายบริหาร

• ตั้งกระทู้ถาม, เปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ, ปรึกษาหารือปัญหาประชาชนในการประชุมวุฒิสภา

คุณสมบัติผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.)

สมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ภายใต้ของพรรคการเมือง ใด ๆ โดยมีคุณสมบัติ ดังนี้

1. มีสัญชาติไทยโดยการเกิด

2. อายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี ในวันสมัครรับเลือก

3. มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ทำงานในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปี (ยกเว้นกลุ่ม 14,15)

4. เป็นผู้มีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้

- เกิดในอำเภอที่สมัคร

- มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในอำเภอที่สมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือก

- ทำงานในอำเภอที่สมัครไว้ไม่น้อยกว่า 2 ปี นับถึงวันที่สมัคร

- เคยทำงานหรือเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนที่อยู่ในอำเภอที่สมัครเลือกเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี

- เคยศึกษาในสถานศึกษาที่อยู่ในอำเภอที่สมัครติดต่อกัน

ไม่น้อยกว่า 2 ปีการศึกษา

20 กลุ่มอาชีพที่สมัคร สว. ได้ ประกอบด้วย

1. กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง เช่น อดีตข้าราชการ อดีตเจ้าหน้าที่ของรัฐ

2. กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เช่น ผู้ที่เป็นหรือเคย เป็นผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ หรือผู้ประกอบวิชาชีพด้านกฎหมาย

3. กลุ่มการศึกษา เช่น เช่น ผู้เป็นหรือเคยเป็นครู อาจารย์ นักวิจัย ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา

4. กลุ่มการสาธารณสุข เช่น แพทย์ทุกประเภท พยาบาล เภสัชกร

5. กลุ่มอาชีพทำนา ปลูกพืชล้มลุก

6. กลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง

7. กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคล ซึ่งมิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ

8. กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน

9. กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมตามกฎหมาย (SME) และ ผู้ประกอบกิจการอื่น ๆ

10. กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจากข้อ (9)

11. กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว เช่น มัคคุเทศก์ ผู้ประกอบกิจการหรือพนักงานโรงแรม

12. กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

13. กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตรกรรม หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

14. กลุ่มสตรี

15. กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น

16. กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง

17. กลุ่มประชาสังคม องค์กรสาธารณประโยชน์

18. กลุ่มนักกีฬา สื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม

19. กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ

20. กลุ่มอื่น ๆ

ลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกเป็น สว.

1. ติดยาเสพติดให้โทษ

2. เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

3. เป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ

4. เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช

5. อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่

6. วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ

7. อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราว หรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

8. ต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล

9. เคยได้รับโทษจำคุก โดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลือกในระดับอำเภอ ยกเว้นความผิดที่กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ

10. เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริต หรือประพฤติมิชอบในวงราชการ

11. เคยต้องคำพิพากษา คำสั่งของศาล หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

12. เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือ ต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดในกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด การพนัน การค้ามนุษย์ หรือการฟอกเงิน

13. เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง

14. อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

15. เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ

16. เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ

17. เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มีการเสนอ การแปรญัตติ หรือ การกระทำด้วยประการใด ๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือกรรมาธิการมีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในการใช้งบประมาณรายจ่าย

18. เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่า เป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

19. เป็นข้าราชการ

20. เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เว้นแต่ได้พ้นจากการเป็น สส. มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือก

21. เป็นสมาชิกพรรคการเมือง

22. เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง เว้นแต่ได้พ้นจากการดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือก

23. เป็นหรือเคยเป็นรัฐมนตรี เว้นแต่ได้พ้นจากการเป็นรัฐมนตรีมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือก

24. เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น เว้นแต่ได้พ้นจากการเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือก

25. เป็นบุพการี คู่สมรส หรือบุตร ของผู้ดำรงตำแหน่ง สส. สว. ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ผู้สมัครรับเลือกเป็น สว. ในคราวเดียวกัน หรือผู้ดำรงตำแหน่งใดในศาลรัฐธรรมนูญหรือองค์กรอิสระ

26. เคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญ

หน้าที่ของ สว. ชุดใหม่

1. พิจารณาแก้รัฐธรรมนูญ สว. มีบทบาทในการเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ แต่ต้องรวบรวมรายชื่อ สส. เพื่อเสนอร่วมกัน สว. เพียงฝ่ายเดียวไม่สามารถเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้

2. พิจารณากฎหมาย สส. มีอำนาจหลักพิจารณากฎหมาย สว. อำนาจน้อยกว่า แต่ถ้าพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ สว. อำนาจเท่า สส.

3. ให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่ง ศาลรัฐธรรมนูญ-องค์กรอิสระ และผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในหน่วยงานรัฐ

- ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

- คณะกรรมการการเลือกตั้ง 7 คน

- ผู้ตรวจการแผ่นดิน 3 คน

- คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 9 คน

- คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน 7 คน

- ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน

- คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน 7 คน

4. ตรวจสอบฝ่ายบริหาร ส่งต่อปัญหาประชาชนให้ดำเนินการแก้ไข

ช่องทางการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการเลือก สว.

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมให้บริการข้อมูลข่าวสาร และความรู้เกี่ยวกับการเลือก สว. ให้แก่ประชาชน ดังนี้

• แอปพลิเคชัน “Smart Vote” อำนวยความสะดวกในการสืบค้นข่าวสาร ความรู้ หรือขั้นตอนวิธีการเกี่ยวกับกระบวนการเลือก

• แอปพลิเคชัน “ตาสับปะรด” ติดตามสถานการณ์และมีส่วนร่วมป้องปราบการทุจริตเลือกโดยการรายงานสถานการณ์ เมื่อมีการพบเห็นการทุจริต และการกระทำผิกฎหมาย

• แอปพลิเคชัน “Civci Education” แหล่งข้อมูลสารสนเทศและเครื่องมือการให้ความรู้ความเข้าใจ

• สายด่วน 1444 เปิดให้บริการในวันและเวลาราชการ เวลา 8.30 - 16.30 น.


image รูปภาพ
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar